๗
อิสยาห์พบกษัตริย์อาหัส 
 ๑ ในสมัยที่อาหัสบุตรของโยธาม* อาหัสเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ระหว่าง 736-716 ปีก่อน ค.ศ.ซึ่งเป็นบุตรของอุสซียาห์เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ เรซีนกษัตริย์แห่งอารัม† อารัม คือประเทศซีเรียในปัจจุบัน และเปคาห์บุตรของเรมาลิยาห์กษัตริย์แห่งอิสราเอล ร่วมมือกันขึ้นไปโจมตีเยรูซาเล็ม แต่ไม่สามารถรบชนะได้  ๒ เมื่อมีคนมาแจ้งพงศ์พันธุ์ของดาวิดว่า “อารัมร่วมเป็นพันธมิตรกับเอฟราอิม” อาหัสและประชาชนต่างก็หวั่นไหวดั่งหมู่ไม้ในป่าที่ไหวลู่ไปกับลม 
 ๓ และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับอิสยาห์ดังนี้ “เจ้าจงออกไป ให้เชอาร์ยาชูบ‡ ความหมายในภาษาฮีบรูคือ คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะกลับมาบุตรชายของเจ้าไปด้วย จงไปพบกับอาหัสที่ถนนหลวงข้างร่องน้ำที่สระบน ซึ่งอยู่ใกล้แหล่งซักผ้า  ๔ และเตือนเขาให้ระวังตัว ใจเย็นไว้ อย่ากลัว และอย่าใจเสียเพียงเพราะไม้ 2 ตอที่คุอยู่ เพราะเรซีน อารัม และบุตรของเรมาลิยาห์กำลังโกรธมาก  ๕ เพราะอารัมกับเอฟราอิมและบุตรของเรมาลิยาห์ได้วางแผนร้ายต่อเจ้า พวกเขาพูดว่า  ๖ ‘พวกเราขึ้นไปโจมตียูดาห์กันเถิด ทำให้พวกเขาตกใจ และตีให้พังพินาศเพื่อพวกเราเอง แล้วแต่งตั้งบุตรของทาเบเอลให้เป็นกษัตริย์ที่นั่น’ ”  ๗  พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ 
“มันจะไม่เป็นเช่นนั้น 
และมันจะไม่เกิดขึ้น 
 ๘ เพราะดามัสกัสเป็นเมืองสำคัญของอารัม 
และเรซีนเป็นผู้นำของดามัสกัส 
และภายใน 65 ปี 
เอฟราอิมจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนไม่อาจเป็นชนชาติได้อีก 
 ๙ สะมาเรียเป็นเมืองสำคัญของเอฟราอิม 
และบุตรของเรมาลิยาห์เป็นผู้นำของสะมาเรีย 
ถ้าเจ้าไม่ยืนหยัดในความเชื่อ 
เจ้าก็จะไม่มั่นคงเลย” 
สัญลักษณ์ของอิมมานูเอล 
 ๑๐  พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับอาหัสอีกว่า  ๑๑ “จงขอพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เพื่อบ่งบอกเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เจ้าเห็น ไม่ว่าจะเป็นจากที่ลึกถึงแดนคนตาย หรือสูงถึงฟ้าสวรรค์”  ๑๒ แต่อาหัสตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ถาม และข้าพเจ้าจะไม่ทดสอบพระผู้เป็นเจ้า”  ๑๓ และอิสยาห์พูดว่า “โอ พงศ์พันธุ์ของดาวิดเอ๋ย จงฟังเถิด พวกท่านทำให้คนรำคาญใจไม่พอหรือ จึงกระทำให้พระเจ้าของข้าพเจ้ารำคาญใจไปด้วย  ๑๔ ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นผู้บ่งบอกเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ท่านเห็น ดูเถิด พรหมจาริณีผู้หนึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายผู้หนึ่ง และจะตั้งชื่อบุตรว่า อิมมานูเอล§ ความหมายในภาษาฮีบรูคือ พระเจ้าสถิตกับเรา ฉบับมัทธิว 1:23  ๑๕ ท่านจะรับประทานโยเกิร์ตและน้ำผึ้งในเวลาที่ท่านรู้จักปฏิเสธความชั่ว และเลือกความดี  ๑๖ เพราะก่อนที่เด็กน้อยจะรู้จักปฏิเสธความชั่ว และเลือกความดี แผ่นดินของกษัตริย์ทั้งสองที่ท่านหวั่นกลัวจะกลายเป็นที่รกร้าง  ๑๗  พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้พวกท่าน ชนชาติของท่าน และตระกูลของท่านประสบกับเวลาที่จะเผชิญกับกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย เลวร้ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นับตั้งแต่วันที่เอฟราอิมแยกไปจากยูดาห์”* เอฟราอิมเป็นอีกชื่อหนึ่งของอิสราเอล และแยกออกจากยูดาห์ 931 ปีก่อน ค.ศ. 
 ๑๘ ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะส่งเสียงผิวปากเรียกฝูงเหลือบที่อยู่ปลายสุดธารของอียิปต์ และเรียกฝูงผึ้งที่อยู่ในแผ่นดินของอัสซีเรีย  ๑๙ พวกมันทั้งหมดจะมาทำรังอาศัยอยู่ที่หน้าผาชัน ที่ซอกหิน ที่พันธุ์ไม้มีหนาม และตามทุ่งหญ้า 
 ๒๐ ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเหมือนใช้มีดโกนที่ถูกว่าจ้างบนฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ให้โกนศีรษะและขา และแม้แต่หนวดเคราก็จะถูกโกนจนเกลี้ยง 
 ๒๑ ในวันนั้น แต่ละคนจะสามารถเก็บได้เพียงแม่โคสาว 1 ตัว และแกะ 2 ตัว  ๒๒ และเป็นเพราะสัตว์เหล่านี้ให้นมได้มากมาย เขาจะรับประทานโยเกิร์ต ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินจะรับประทานโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง 
 ๒๓ ในวันนั้น ทุกแห่งที่เคยมีเถาองุ่น 1,000 เถา มีค่าเป็นเงิน 1,000 เชเขล† 1 เชเขล หนักประมาณ 11.4 กรัม ก็จะกลายเป็นพุ่มไม้หนามและต้นหนาม  ๒๔ จะมีคนมาล่าสัตว์ด้วยคันธนูและลูกธนูที่นั่น เพราะทั่วทั้งแผ่นดินจะมีพุ่มไม้หนามและต้นหนาม  ๒๕ ส่วนเนินเขาที่เคยเป็นที่พรวนดิน ท่านก็จะไม่ไปที่นั่นเพราะกลัวพุ่มไม้หนามและหนาม แต่มันจะกลายเป็นที่สำหรับฝูงโค และเป็นที่ให้ฝูงแกะเหยียบย่ำ 
*๗:๑ อาหัสเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ระหว่าง 736-716 ปีก่อน ค.ศ.
†๗:๑ อารัม คือประเทศซีเรียในปัจจุบัน
‡๗:๓ ความหมายในภาษาฮีบรูคือ คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะกลับมา
§๗:๑๔ ความหมายในภาษาฮีบรูคือ พระเจ้าสถิตกับเรา ฉบับมัทธิว 1:23
*๗:๑๗ เอฟราอิมเป็นอีกชื่อหนึ่งของอิสราเอล และแยกออกจากยูดาห์ 931 ปีก่อน ค.ศ.
†๗:๒๓ 1 เชเขล หนักประมาณ 11.4 กรัม